วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Top 5 หนังสยองขวัญไทย ที่น่าดู




Top 5 หนังสยองขวัญไทย ที่น่าดู



อันดับ 5



PHOBIA 2 - ห้าแพร่ง


ห้าแพร่ง ( Phobia 2) เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ โดยมีโครงเรื่องเกี่ยวกับผี

และความกลัวเช่นเดียวกับ สี่แพร่ง แต่จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สั้น 5 เรื่อง

อย่าแปลกใจ... ถ้าคุณเสพติดความกลัว” นี่คือคำโปรยของหนังผีเรื่องนี้ที่คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากนัก

เพราะนี่คือหนังที่มีกระแสแรงที่สุดและถูกพูดถึงมากที่สุดอยู่ในขณะนี้ GTH ขอต่อยอดความสำเร็จจาก ‘สี่แพร่ง’

หนังผีรวมเรื่องสั้น 4 เรื่อง ปีก่อน (พ.ศ.2551) ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

ด้วยการกลับมาอีกครั้งกับความกลัวรูปแบบใหม่ใน ‘5 แพร่ง’ หนังผี 5 เรื่อง จาก 5 ผู้กำกับ


เปิดตัวด้วยเรื่อง ‘หลาวชะโอน’ (Novice)

กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา (ยันต์สั่งตาย, บอดี้ ศพ#19)


สำหรับ เป้ (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัยสิบสี่ ‘กรรม’ เป็นเรื่องเชยโคตรๆ

เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้มือถือใหม่ เมื่อเหยื่อตาย

แม่พาเป้หนีไปบวชในวัดป่าห่างไกล ภายใต้ผ้าเหลืองเป้พ้นจากมือกฎหมาย

แต่กลับตกอยู่ในเงาของมืออีกมือหนึ่ง มันเอื้อมเข้ามาหาเขาช้าๆ ทว่าไม่หยุดยั้ง

นั่นเพราะ ‘กรรม’ ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ใคร มันไม่รู้จักคำว่า ‘ให้อภัย’



เรื่องที่ 2 ‘ห้องเตียงรวม’ (Ward)

กำกับโดย วิสูตร พูลวรลักษณ์ (ผู้อำนวยการสร้าง ‘นางนาก’)



หนุ่มทะเล้นขี้เล่นคนหนึ่ง (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) มอเตอร์ไซค์คว่ำขาหักทั้งสองข้าง

จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม ทั้งๆที่อยากนอนห้องพิเศษ

และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกับชายหนุ่มเป็นร่างไร้สติของชายชราอาการโคม่า

ที่นอนรอวันปิดอ็อกซิเจนมาแล้วร่วมเดือน แต่เหมือนกับจะรู้ว่าเพื่อนหนุ่มหน้าใหม่เป็นคนขี้กลัว

คืนนั้นชายแก่จึงลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง


เรื่องที่ 3 ‘Backpackers’


กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ, แฟนฉัน)


คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งฉลองเรียนจบด้วยการแบ็กแพ็กตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขา

ใช้วิธีโบกรถเข้ากรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้สักคัน หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้แบงก์พันเป็นรางวัลล่อ

รถพ่วงคันหนึ่งจึงจอดรับ โชคร้ายที่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้ม

ของคนขับกับเจ้าเด็กรถ (แน๊ก-ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลีน

ของทุกคนต้องคลั่ง


เรื่องต่อมา ‘รถมือสอง’ (Salvage)

กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (เที่ยวบิน 224, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด)



คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งเป็นรถมือสองประวัติศาสตร์ของแต่ละคันอาจ

ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของใหม่อยากรู้ กลางดึกสงัดหลังเต็นท์ปิด นุช (นิโคล เทริโอ)

เจ้าของเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ย่านชานเมืองพบว่าลูกชายของเธอหายตัวไป

ท่ามกลางแถวรถนับร้อยคัน เทปกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าลูกของเธอแอบเข้าไป

เล่นในรถคันหนึ่งที่เธอเพิ่งรับซื้อมา...แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย


เรื่องสุดท้าย ‘คนกอง’ (In the End)

กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล (คนกลาง,ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, แฝด)



เต๋อ, เผือก, ชิน และ เอ เป็นทีมงานหนังผีที่การถ่ายทำดำเนินมาถึงคิวสุดท้าย

คืนสุดท้าย ฉากสุดท้าย เหลือเพียงสองช็อตสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงสาวหน้าใหม่

ที่รับบทเป็นผีเกิดหัวใจวายตายกลางกองถ่าย ซวยสุดยอดที่ก่อนหน้านั้นเต๋อดันไปเสร่อ

ทำเท่สอนเธอว่า “The show must go on” เธอจึงกลับมาเพื่อแสดงต่อ

ทั้งสี่จึงต้องถ่ายหนังผี ที่มีผี เล่นเป็นผี ให้จบให้จงได้...โดยห้าม ‘พี่ช่า’ (มาช่า วัฒนพานิช)

นางเอกของหนังรู้ความจริงเป็นอันขาด!



อันดับ 4



The Unseeable - เปนชู้กับผี


เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในสยาม ปี พ.ศ. 2477 นวลจัน สาวตั้งครรภ์เดินทางเพื่อตาม

หาสามีที่หายตัวไปของเธอ เธอได้ขอเข้าพักอาศัยในคฤหาสน์ของแม่ม่าย

ชื่อว่า รัญจวน นอกจากเธอแล้ว ผู้คนในคฤหาสน์ยังมีแม่บ้านใหญ่ซึ่งสวมชุดดำปิดคอตลอดเวลา

เธอเป็นผู้คอยดูแลคฤหาสน์ชื่อ สมจิตและสาวใช้ชื่อ ช้อยซึ่งเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือนวลจัน

ในไม่ช้า นวลจันก็ค้นพบว่าในคฤหาสน์มีเรื่องราวอันน่ากลัวซุกซ่อนอยู่

รวมถึงความไม่ชอบมาพากลของบรรดาผู้พักอาศัยในคฤหาสน์แห่งนี้



อันดับ 3



Phobia - สี่แพร่ง

หนังเรื่อง สี่แพร่ง เองก็มีรูปแบบที่ไม่ต่างไปจากรายการเล่าเรื่องผีในรายการพี่ป๋อง

ที่มี 4 เรื่องเล่าจาก 4 ผู้กำกับมาผลัดกันเล่าทีละคน ดั่งเป็นเรื่องเล่าลี้ลับที่ยิ่งเล่าก็ยิ่งขนลุก

ยิ่งพูดก็ยิ่งกลัว จนบางทีพอจะถึงจุดไคลแม็กซ์สำคัญอย่าเผลอให้มีอะไรตกใส่พื้น

โครมครามเข้าเป็นอันขาด เพราะเดี๋ยวพาลจะทำให้คนฟังสะดุ้งช็อคกันได้ง่าย ๆ

และเมื่อ สี่แพร่ง เล่าจบครบทุกตอนแล้ว ผลที่ได้ก็ไม่ต่างกับการฟังเรื่องผีจากรายการพี่ป๋อง

นั่นก็คือกลับมาบ้านแล้วคืนนั้นยังต้องนอนเปิดไฟจนถึงเช้าเหมือนกัน

หากมีการแบ่งระดับความน่ากลัวของหนังผีที่เคยมีมา สี่แพร่ง ต้องถือว่าเป็นหนังผีที่มี

ดีกรีความน่ากลัวอยู่ในขั้นเกรดเอ ทั้งยังเป็นหนังผีที่ทำหน้าที่ของหนังผีได้สมบูรณ์แบบ

กล่าวคือสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมไปพร้อมกับใส่ช่วงจังหวะผ่างหรือ

จุดไคลแม็กซ์ให้คนดูตกใจกลัวและกรีดร้องออกมา ที่สำคัญคือพล็อตหรือเรื่องราวของ

4 เรื่องใน สี่แพร่ง ที่มีลักษณะเป็นหนังสั้นก็สามารถทำให้คนดู(เกือบ)

เชื่อและเอื้อต่อการนำมาทำเป็นหนังผีอย่างลงตัว


แพร่งที่ 1 เรื่อง “เหงา” (Happiness)

ความเหงา สามารถทำให้ ผู้หญิง ทำอะไรโง่ๆได้หลายอย่าง ดังเช่นสาวออฟฟิศในเรื่องนี้

เธอเหงา เธอตกงาน เธอโดนทิ้ง เธอหดหู่สุดขีด เมื่อมีข้อความเข้ามาในมือถือว่า “อยากรู้จัก”

เธอจึงเริ่มต้น SMS กับคนที่เธอไม่คาดถึงว่าเขาคือ...


แพร่งที่ 2 เรื่อง “ยันต์สั่งตาย” (Tit for Tat)

จินตนาการถึงวิธีการเอาคืนแบบเด็กๆ อย่างการเขียนกระดานดำล้อชื่อพ่อเพื่อน

แล้วลองจินตนาการถึงการเอาคืนของเด็กช่างกลกลุ่มนี้ ที่เลือกวิธีเขียนยันต์สั่งตาย

แช่งคนที่พวกเขาเกลียดขี้หน้า จินตนาการดูซิว่า ดีกรีความโหดมันจะสุดขั้วกว่ากันแค่ไหน


แพร่งที่ 3 เรื่อง “คนกลาง” (In the Middle)

วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งออกไปตั้งเต๊นท์กลางป่าลึก พวกเขาล้อมวงเล่าเรื่องผี

ทำกิจกรรมห่ามๆไร้สาระตามขนบหนังสยองขวัญทุนต่ำทุกประการ

แต่ไฉนผีที่พวกเขาประสบพบเจอ กลับเป็นผีที่แหกธรรมเนียมปฏิบัติผี

ในหนังทุกเรื่องที่พวกเขาเคยดูมา


แพร่งที่ 4 เรื่อง “เที่ยวบิน 224” (The Last Flight)

รวมมิตรสุดยอดของอาการ 4bia (Phobia) ทุกรูปแบบ นี่คือเที่ยวบินที่ไม่เหมาะสำหรับ

คนกลัวที่แคบ เสียงดัง แรงสั่นสะเทือน ความกดอากาศ ความมืด และ ศพ

ทั้งหมดนี้รอต้อนรับแอร์โฮสเตสสาวคนหนึ่ง ในไฟลท์ที่เธอต้องเผชิญมันเพียงลำพัง



อันดับ 2



Art of the Devil - ลองของ ภาค 1


ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์ ) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูบาอาจารย์บ้านป่า

ชีวิตของเจ้าหล่อน ไม่ธรรมดาคงเหมือนพร้อมกับอาจารย์ทั่วไป แต่ว่าความสวยความสาวของเธอ

พร้อมนำมาซึ่งเคราะห์ร้าย จากใครหลายคนที่รุมรักใคร่ชอบพอเธอ

มนต์ดำ ไสยศาสตร์ คาถา ถูกถ่ายทอดผ่านการฝึกฝนจากตัวเธอ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ

เเม้จะต้องเเลกด้วยอะไรก็ยอม


อันดับ 1



THE SHUTTER - เดอะชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ



หนังสยองขวัญของเมืองไทย อันดับ 1 ตลอดกาล


ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เป็นภาพยนตร์ไทยในปี 2547 กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล

และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และ อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์

สามารถทำรายได้ในประเทศไทย 120 ล้านบาท ยังขายลิขสิทธิ์ได้ใน 30 ประเทศทั่วโลก

สร้างรายได้ ฉายในสิงคโปร์ได้ 33 ล้าน ที่เกาหลีติดอันดับ 5 หนังทำเงิน

ฉายที่บราซิล 4 สัปดาห์แรก ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านบาท ชัตเตอร์ยังได้รับรางวัล Best Asian Film

จากเทศกาล Fantasia Film Festi val 2005 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

และรางวัลหนังแฟนตาซีที่ดีที่สุดในงาน Fantastic's Arts Festival of Gerardmer ประเทศฝรั่งเศส

เเละยังถูกซื้อไปรีเมคจากหลายๆชาติ รวมทั้งฮอลีวูีดด้วย


คุณเคยสังเกตุภาพถ่ายที่คุณมีอยู่หรือไม่ บางทีอาจมี 'บางสิ่ง' ซ่อนอยู่โดยที่คุณไม่รู้ตัว...

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เป็นเรื่องราวของ ธรรม์ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์

กับ เจน (จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) แฟนสาวของเขา เรื่องเริ่มต้นขึ้น เมื่อทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แ

ล้วตัดสินใจขับหนีไป ไม่นานทั้งคู่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อภาพถ่ายของธรรม์นั้น

ถ่ายติดแสงเงาประหลาดมาด้วย แรกเริ่มเขาก็คิดเพียงว่ามันเป็นแค่รูปเสีย

แต่แล้วเขาก็พบว่า มันมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น คือมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย

ทั้งคู่เริ่มค้นพบว่า เงาที่ปรากฏในภาพทั้งหลายนั้น ..มีบางอย่างที่เชื่อมโยงถึงกัน!

ทั้งสองจึงเริ่มออกค้นหาว่า หญิงสาวในภาพคือใคร และต้องการสื่อสารอะไรกันแน่..





นี่เป็นเพียงเเค่ยกตัวอย่างหนังสยองขวัญไทยมาเพียงเเค่ 5 เรื่องเท่านั้น

ยังมีหนังสยองขวัญไทยอีกหลายเรื่องที่น่าดู หวังว่า 5 เรื่องนี้จะถูกใจใครหลายๆคนนะ



อ้างอิง : Top 5 หนังสยองขวัญไทย ที่น่าดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น